วิเคราะห์สินเชื่อ ธอส. (มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ)

อัตราดอกเบี้ย,ถูกกว่าธนาคารทั่วไป??

• อัตราดอกเบี้ย เฉลี่ย 3 ปีแรก สำหรับลูกค้าสวัสดิการ = 4.50%  ส่วนลูกค้าทั่วไป = 4.58% 
• ถือเป็นอัตราดอกเบี้ยระดับกลางๆ เพราะปัจจุบันยังมีธนาคารพาณิชย์ที่ให้อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกถูกกว่านี้ เช่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เฉลี่ย 3 ปีแรก = 3.90% (ซื้อคอนโดฯที่ธนาคารสนับสนุน) หรือธนาคารทหารไทย ก็เฉลี่ย 3.99%ต่อปีใน 3 ปีแรก แต่มีเงื่อนไขต้องซื้อผลิตภัณฑ์อื่นของธนาคาร แต่ถ้าไม่ซื้อก็เฉลี่ย 4.50% เท่ากับธอส.
• และเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยยังเหมือนกับ โครงการ “บ้าน ธอส.เพื่อสานรัก ปี 2558” ที่เพิ่งออกมาไม่นาน โดยให้กู้กับผู้มีรายได้สุทธิ ไม่เกิน 15,000 บาท/เดือน กู้ได้สูงสุด 1.5 ล้านบาท ผ่อนปีแรก 5,100 บาท ยื่นกู้และทำสัญญาจนถึง 30 ธ.ค.2558 
ฉะนั้น ใครเข้าเงื่อนไขนี้จะลองยื่นผ่านโครงการนี้เป็นทางเลือกก็ได้ วงเงินที่ตั้งไว้ก็ไม่ใช่น้อย ตั้ง 8,000 ล้านบาท

สัดส่วนหนี้/รายได้??

• ธนาคารทั่วไปยินยอมให้มีภาระหนี้ได้ 40% หรือเต็มที่ไม่เกิน 50% ของรายได้สุทธิ ดังนั้นสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ก็ ธอส.จะให้กู้รอบนี้จึงใกล้เคียงกับธนาคารพาณิชย์ทั่วไป 
• เพียงแต่เกณฑ์(เดิม)ของธอส.จะยินยอมให้มีหนี้ได้เพียง 33% ของรายได้สุทธิเท่านั้น(หรือ 1 ใน 3) รอบนี้จึงถือว่าธอส.ผ่อนปรนมากกว่ากว่าปกติ

อัตราผ่อนชำระ??

• น่าจะเป็นอะไรที่พิเศษและเหนือกว่าเงื่อนไขการกู้จากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
เพราะกู้ 1 ล้านบาท ผ่อนเพียงแต่ 5,000 บาท ในขณะที่ถ้าเป็นการผ่อนของธนาคารทั่วไป 
กู้ 1 ล้านจะผ่อนประมาณ 7,000-8,000 บาท

• ต้องไม่มีหนี้ค้างชำระ นั่นคือ ถ้ามีต้องเคลียร์และปิดบัญชีให้เป็น 0 ก่อนยื่น พร้อมแนบเอกสารการปิดบัญชี
• ฉะนั้น คนเคยมีประวัติติดแบล็คลิสต์หรือชำระหนี้ล่าช้า จ่ายไม่ตรง สามารถยื่นได้ ,จะพิจารณาเป็นรายๆ 
• เงื่อนไขนี้ถือว่าผ่อนปรนอีกเช่นกัน เพราะปกติถ้ามีประวัติติดแบล็คลิสต์จะกู้ยากมาก

สรุป : พิจารณาจากเงื่อนไขข้างต้น โครงการสินเชื่อฯ นี้ ดีตรงที่อัตราผ่อนต่อเดือนน้อย ไม่เป็นภาระต่อผู้กู้มากเกินไป(ช่วงผ่อน 3 ปีแรก) และดีตรงที่ไม่ปฏิเสธคนที่มีประวัติติดแบล็คลิสต์เสียทีเดียว

#บ้านเหลือเงิน #บ้านเงินเหลือ #สินเชื่อsme #สินเชื่อfactoring #บ้านหลุดจำนอง